อุปสรรคทำให้เราแกร่งขึ้น
- WiNutcha
- Feb 13
- 1 min read
Updated: Jul 8
ทุทการเริ่มต้นใหม่บนเส้นทางชีวิต มันจะมีผู้คนและเหตุการณ์ใหม่ๆ ที่จะมาท้าทายเราเสมอ ความกลัว ความกังวล ความไม่รู้ และความไม่แน่นอนว่าอะไรจะเกิดขึ้น เป็นอารมณ์ปกติที่เราจะต้องมี การเอาชนะอารมณ์ลบๆ แบบนี้ได้ จะต้องอาศัยความอดทน ความกล้าที่จะเปลี่ยน และการยอมรับความเป็นจริง จะทำให้เราอยู่ได้และอยู่ได้ดีบนโลกแห่งชีวิตจริง
ตอนที่วิณัชชาย้ายมาอยู่เกาะพะงันใหม่ๆ ก็มีความกังวลว่าสิ่งที่คิดไว้กับสิ่งที่เกิดจะตรงกันไหม แต่ก็เกินคาดเพราะเราอยู่ได้ เราอยู่ในที่ๆ เหมาะสม เราได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมา ทั้งภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ หรือการสะสมประสบการณ์การทำงานกับลูกค้าต่างชาตินำมาใช้ให้อาชีพตัวเองเจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว เพราะเราไม่ได้แข่งกับใครเราแข่งกับความกลัวของตัวเอง เรากล้าเปลี่ยนชีวิตตัวเองและชีวิตจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากที่เคยเป็นอยู่
หลังจากทำงานไปสักพักก็มีคนมาเสนอให้เช่าทำรีสอร์ทจำนวน 8 ห้อง พร้อมธุรกิจสปา เป็นครั้งแรกที่เราได้ทำกับแฟนในสถานะตอนนั้นของสามี ทั้งที่เราก็พึ่งเรียนรู้นิสัยใจคอเค้า เค้าก็ต้องเรียนรู้นิสัยเรา เราคบกันเข้าปีที่ 2 ก็ตกลงปลงใจมาร่วมหัวจมท้ายช่วยกัน ในเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยกันพายเรือให้ไปตลอดรอดฝั่ง
การทำธุรกิจด้วยกันครั้งแรก เราต้องเจอปัญหาใหม่ๆที่เราไม่เคยเจอ ทั้งเรื่องการบริหารเงินที่เราจะใช้ทำธุรกิจที่งบมันบานปลายมากกว่าตอนคิดไว้ สามียืมเงินแม่มาจำนวนหนึ่ง และเราก็เอามาจ่ายค่าเช่าและทำการซ่อมแซมรีสอร์ทให้พร้อมสำหรับรับลูกค้า แต่เชื่อไหมพอเดือนแรกที่เปิดเราไม่มีลูกค้าเลย เพราะเราพึ่งเปิดยังไม่มีใครรู้จักเรา เงินมีไม่พอจ่ายค่าพนักงาน วิก็ขอหยิบยืมญาติมาเพื่อจะได้มีจ่ายลูกน้อง ตอนนั้นมีแม่ของวิมาช่วยทำงาน วิณัชชากับสามีสำนึกในบุญคุณของแม่พวกเรามากๆ ที่ช่วยเหลือเรา แม่สามีช่วยเรื่องเงินมาลงทุน ส่วนแม่เราก็ช่วยออกแรงช่วยเราทำงาน ไม่ว่าจะช่วยทำกับข้าว ช่วยนวดลูกค้า สู้กันมา 4 คน ลูกสาว แฟนลูก แม่เรา แม่สามีที่คอยให้กำลังใจพวกเราจากต่างแดน เป็นการทำธุรกิจแบบครอบครัวขนานแท้
พอผ่านไปได้สัก 2-3 เดือน เราก็มีลูกค้า walk in และก็มีลูกค้ามาเรื่อยๆ จากปากต่อปากและการได้คะแนนในระดับที่ดีจากทาง booking.com 1 ปีที่ได้บริหารกันมา ก็มีลูกค้ารู้จักเรามากขึ้นและอันดับใน TripAdivor เว็บไซต์ที่ลูกค้านิยมรีวิวที่พักและร้านอาหาร เราก็ติดอันดับ 1-5 ของรีสอร์ทขนาดเล็กภายใน 1 ปี เป็นเพราะเราใช้ใจในการทำงาน สละทั้งจิตวิญญาณและเวลาที่เรามีทั้งหมดให้กับธุรกิจของเรา หายใจเข้าออกคือ รีสอร์ทไม่ต้องไปไหนกันกเลย และที่สำคัญการให้บริการลูกค้าเหมือนเค้าเป็นแขกของคนในครอบครัวเรา ความมีน้ำใจให้ลูกค้า ความรักในงานบริการ เราไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ตัวเงิน แต่เราใช้ความจริงใจและซื่อสัตย์ในธุรกิจของเรา ตัวเงินจะมาหาเราเอง การได้คะแนนที่ดีจากทุกช่องทางทำให้เราเป็นที่นิยมของลูกค้าเร็วมากขึ้น และในตอนนั้นประมาณปี 2015 คู่แข่งทางธุรกิจก็มีไม่มาก และเราได้ทั้งภาษาอังกฤษและการบริการที่ลูกค้าให้ความเชื่อมันว่า นอนดี กินอิ่ม สะดวกสบาย มันก็เลยทำให้เราเป็นตัวเลือกแรกๆในระแวกที่เราทำรีสอร์ท
3 ปีที่ร่วมกันทำกับสามี อยากบอกว่าทะเลาะกันบ่อยมากๆ เราเป็นผู้หญิงก็จะมีอารมณ์อ่อนไหว ซึ่งสามีไม่เข้าใจ เค้าเป็นฝรั่งเป็นผู้ชายมากๆ ที่จิตใจค่อนข้างจะแข็งแกร่งเกินเบอร์ จะมาบอกว่าไม่ให้เอาอารมณ์ส่วนตัวมายุ่งกับธุรกิจ มันยากนะคะ ผัวเมียทำงานด้วยกัน ฝันไปเถอะค่ะ มันยากมาก กว่าจะผ่านวันนั้นมาได้ ก็ไม่รู้ว่าเราทำไมจิตใจแข็งแกร่งขนาดนี้ หรือสามีอดทนกับเราขั้นสุดเหมือนกัน 5555 แต่ขนาดว่าทะเลาะกันทุกวันนะ ยังจัดงานแต่งงานหลังจากทำธุรกิจร่วมกันได้ 1 ปี เริ่มทำรีสอร์ท ปี 2015 แต่งงานปี 2016
3 ปีที่ได้ทำที่ Paragaon Spa Resort ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ในหลายๆ เรื่อง ทั้งการทำสัญญาต้องมีความชัดเจน การสื่อสารกับคู่สัญญา การมีมิตรที่ดีเพิ่มขึ้นหรือการมีคนที่เค้าไม่ชอบเราใส่ร้ายเราแต่มาในรูปแบบเพื่อน มันก็คือเรื่องที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง จนบางทีเราก็ได้แต่บอกตัวเองว่าเราจะอดทนและแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญา เดี๋ยววันที่เราสำเร็จมันจะมาเอง
วิณัชชาพยายามทำให้ดีที่สุดไม่ได้จะพิสูจน์ตัวเองให้ใครยอมรับ แต่เราอยากพิสูจน์ว่าเราไม่ใช่คนที่ใครๆ จะสบประมาทได้ หรือคิดว่าเราเป็นเหมือนคำนินทาของคนอื่นที่เรารู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง วิณัชชาเป็นคนไม่มีเวลามานั่งอธิบายใครว่าเราเป็นคนแบบไหน แต่วิณัชชาจะทำทุกวันให้ดี พร้อมเรียนรู้ พร้อมปรับปรุงตัวให้เป็นคนที่จะเติบโตในชีวิตและธุรกิจ
เดี๋ยวสักวันคนก็จะรู้เองว่าเราเป็นผู้หญิงเก่งหัวใจแกร่ง บางครั้งทุกคนอาจจะคิดว่า 10 ปีที่พิสูจน์ตัวเองมันนานนะ แต่จริงๆ มันไม่นานหรอกค่ะ ตอนนี้วิณัชชาจำไม่ได้แล้วว่าความรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง หรือโกรธเป็นยังไง ตอนนี้มีแต่มีความสุข ความภูมิใจในตัวเอง ที่เราเป็นผู้หญิงจากต่างแดนเข้ามาสร้างงานสร้างรายได้ให้กับเกาะพะงันเช่นกัน ไม่ได้มาเพื่อกอบโกยแต่วิณัชชาก็ทำงานร่วมกับคนท้องถิ่น เราก็แบ่งรายได้ให้กันและกัน สนับสนุนการทำงานร่วมกัน เสียภาษีทุกปีไม่เคยหลีกเลี่ยง เราเป็นคนไทยก็ต้องทำหน้าที่ของพลเมืองที่ดีเช่นกัน
คนเราต้องการเติบโตมากขึ้น พอเราได้มีประสบการณ์ชีวิตในการทำงานร่วมกันกับสามีมา 3 ปี เราก็รู้สึกว่า มันถึงเวลาที่เราจะเติบโตต่อไป เพราะห้องพัก 8 ห้องกับสปามันรายได้ไม่พอ เพราะค่าเช่าก็ค่อนข้างสูง และมีปัญหาที่เพื่อนบ้านสร้างโรงแรมและเสียงดังมาเป็นปี ทำให้เรามีปัญหากับลูกค้าเราเอง ทำให้รายได้เราลดลง เราต้องมองหาแผนอื่นๆ ที่จะทำให้เราอยู่รอดและเจริญเติบโตต่อไป เห็นไหมอะไรก็เกิดขึ้นได้ พอจะดีขึ้นก็มีเรื่องที่มาขัดขวางความสำเร็จของเรา ชีวิตมันจะมีขึ้นและมีลง ดังนั้นเราอย่าประมาทในการใช้ชีวิตหรือการทำธุรกิจก็เช่นกัน
สามีเค้าก็นั่งคิดนอนคิดว่าเราจะไปตรงไหนกันต่อดี คนเราถ้ามุ่งมั่นมันก็ต้องเจอซิ สุดท้ายก็ได้มาเจอรีสอร์ทที่เค้าจะให้เช่าที่ใหม่และใหญ่กว่าเดิม แต่ด้วยดวงชะตาสามีหาเจอในอินเตอร์เน็ต เค้าลงรูปแต่ไม่ลงรายละเอียดว่าอยู่ที่ไหนและติดต่อใคร สามีก็เอามาให้เราดูเชื่อไหม ที่นี้วิณัชชาคุ้นๆ เพราะมันเป็นที่ๆ วิณัชชาเคยเข้าไปดูพระอาทิตย์ตกตอนมาเที่ยวพะงันคร้ังแรก ตอนนั้นยังคิดเลยว่าที่นี้สวยนะ แต่มันดูเงียบเหงา ดูเศร้าสร้อย เหมือนที่นี้กำลังรอใครสักคน และสุดท้ายคำตอบก็คือ เค้ารอเรากับสามีอยู่นั้นเอง
Zama Resort ที่ๆ ทำให้วิกับสามีสานฝันร่วมกัน แต่ก็มีทั้งความสมหวังและความสูญเสีย เป็นสถานที่ที่สร้างวิณัชชาและสามีให้เติบโตไปพร้อมๆ กัน ที่นี้มีมนต์ขลังยังไงรอติดตามกันนะคะ
ปล. Zama" ในภาษาสันสกฤตมีความหมายว่า "ความสงบ" หรือ "ความเงียบสงบของจิตใจ" นอกจากนี้ยังสามารถหมายถึง "ความผ่อนคลาย" หรือ "ความสงบ" บางครั้งก็มีความหมายว่า "ความสมดุล" หรือ "ความเท่าเทียม"
Comments